“การจัดฟัน” คงเป็นวิธีแรกสุดที่ใครหลายคนนึกถึงเมื่อพูดเรื่องการดูแลช่องปากให้สวยงามและแข็งแรง เพราะถือเป็นวิธียอดนิยมในประเทศเราที่มีคนให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มที่จะเติบโตไปอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่ผู้ใหญ่ตั้งแต่รุ่นพ่อ-แม่ เริ่มหันมาใส่ใจกับสุขภาพช่องปากของลูก ๆ มากขึ้น เราจึงมักพบเห็นวัยรุ่นใส่เหล็กดัดฟันหรือจัดฟันแบบใสกันเป็นเรื่องปกติมากในยุคปัจจุบัน แต่นอกเหนือไปจากเรื่องจัดฟันแล้ว ในความเป็นจริงยังมีวิธีการดูแลช่องปากให้แข็งแรงและสุขภาพดีได้ด้วยหลากหลายวิธี ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ อยู่ในชีวิตประจำวันอีกด้วย
อยากเริ่มต้นดูแลฟันควรทำอย่างไร?
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นอยากหันกลับมาดูแลช่องปากและฟันให้แข็งแรง เริ่มแรกต้องเข้าพบทันตแพทย์ในการตรวจทันตกรรมทั่วไป เพื่อเช็คสภาพของช่องปากก่อน และให้ทันตแพทย์ได้ตรวจเช็ค พูดคุยว่าสุขภาพช่องปากของคุณเป็นอย่างไร มีปัญหาใดบ้างที่ควรได้รับการรักษา โดยเราสามารถแบ่งการตรวจรักษาทันตกรรมทั่วไปได้เป็น3 แบบ คือ
- การอุดฟัน
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องฟันผุไม่ว่าจะเป็นในระยะเริ่มต้นหรือเรื้อรังก็ตาม การอุดฟันจะเป็นการยับยั้งการเติบโตของเจ้าเชื้อโรคที่อยู่ในฟัน ใครที่เริ่มอุดแล้วควรไปให้คุณหมอเช็คอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้บริเวณที่อุดฟันเกิดการหลุดหรือเคลื่อน และเช็คเพิ่มเติมว่ามีบริเวณใดที่ควรอุดเพิ่มหรือไม่นั่นเอง
- ขูดหินปูน, ฟอกฟัน, ขัดสีฟัน
การปรับเปลี่ยน แต่งเติมสภาพฟันและช่องปากให้ดูดี ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทของการดูแลรักษาในทันตกรรมทั่วไปเช่นกัน เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต หรือเสริมให้บุคลิกภาพทางการเข้าสังคมดีขึ้น โดยในการทำแต่ละอย่างใช้ระยะเวลาและขั้นตอนที่แตกต่างกันไป เมื่อทำแล้วควรกลับมาให้คุณหมอเช็คเป็นประจำ เพราะอาการของหินปูนและคราบที่เกาะสีฟันยังสามารถกลับมากวนใจช่องปากของเราได้ทุกเมื่อ
- วินิจฉัยเฉพาะ
การวินิจฉัยเฉพาะ มีไว้สำหรับวางแผนโครงสร้างการรักษาของผู้ป่วยในระยะยาวโดยตรง เช่น คนที่จัดฟัน คนที่ตัดแต่งเหงือก เป็นต้น ซึ่งการรักษาเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องเข้าพบคุณหมอและปรึกษาหารือกันในแต่ละกรณีไป เพื่อให้การรักษาช่องปากออกมาได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เคล็ดลับการดูแลรักษาสุขภาพปากและฟันให้สุขภาพดี มีอะไรบ้าง?
การดูแลรักษาช่องปากให้มีสุขภาพดี ความจริงแล้วง่ายดายมาก แต่หลายคนมักมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว ในวันนี้เราจึงมีวิธีการดูแลรักษาช่องปากง่าย ๆ มาฝากทุกท่านที่อยากจะมีฟันขาวสะอาดและแข็งแรง ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการออกสังคม ดังนี้
- ดื่มชา กาแฟ และน้ำอัดลมให้น้อยลง
สำหรับผู้ที่เพิ่งฟอกฟันขาวมา ท่านทราบหรือไม่ว่าชานมและกาแฟที่ท่านดื่มกันคราวละหลาย ๆ แก้วนั้นมีส่วนผสมของคาเฟอีน ที่กัดกร่อนให้สีฟันของเรานั้นหมองลง จากฟันขาวเปลี่ยนเป็นฟันเหลืองได้ในชั่วพริบตา และการที่ไปเคลือบสีฟันมาก็มลายหายไป ดังนั้นควรลดการดื่มชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมให้น้อยลง เพื่อปกป้องทั้งสุขภาพของร่างกายและสุขภาพฟันให้แข็งแรงอยู่เสมอ
- จัดฟันให้เรียงสวย
ในปัจจุบันการใส่เหล็กดัดฟันนั้นแม้ยังมีให้เห็นแต่ก็น้อยลงกว่าช่วงก่อนมาก ด้วยนวัตกรรมใหม่จากการจัดฟันแบบใส ทำให้หลายคนเลือกที่จะเติมความมั่นใจด้วยการใส่แบบไม่มีเหล็กมากกว่า เพราะสามารถยิ้มได้อย่างเดิม แถมยังได้รักษาฟันที่เขเกให้กลับเข้าที่ได้อีกด้วย
- เลือกใช้แปรงสีฟันที่ถูกสุขลักษณะกับช่องปาก
เรื่องของแปรงสีฟันเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับช่องปากและฟัน เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เราจำเป็นต้องใช้ทุกวันในตอนเช้า ก่อนนอน หรือหลังรับประทานอาหาร จึงต้องพิถีพิถันในการเลือกมากเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงการใช้แปรงที่มีลักษณะใหญ่และแข็ง เพราะจะทำให้เหงือกของเราอักเสบจนเลือดออกได้ อีกทั้งยังซอกซอนได้มีลึกเพียงพอ อาจนำไปสู่ภาวะเสี่ยงต่อการเป็นฟันผุได้ในระยะยาว
- บ้วนปากเพียงสองครั้ง
ทุกท่านทราบหรือไม่ว่า ยาสีฟันที่เราใช้กันอยู่ทุกวันได้มีการผสมสารเคลือบฟันนานาชนิดมาให้ เพื่อเสริมสร้างให้สุขภาพฟันของเราขาวและแข็งแรง แต่สารเคลือบฟันเหล่านั้นมักจะหายไป เนื่องจากเราใช้น้ำเปล่าบ้วนปากหลายครั้ง จนทำให้สารเหล่านั้นหลุดไปด้วย ทางที่ดีจึงควรบ้วนปากไม่เกิน 2 ครั้งเท่านั้น เพื่อให้สารเคลือบฟันยังติดทนอยู่
- ลด ละ เลิกการใช้ไม้จิ้มฟัน
เข้าใจได้ว่าบางครั้งเมื่อทานข้าว เศษอาหารก็มักจะชอบไปติดซอกฟันให้กวนใจ แต่การใช้ไม้จิ้มฟันนั้นไม่ค่อยดีต่อสุขภาพทางช่องปากสักเท่าไหร่ เพราะนอกจากจะทำให้ฟันห่างแล้ว ก็ยังสามารถทำให้เหงือกของเราเกิดอาการอักเสบจนเป็นแผลได้อีกด้วย ดังนั้นควรเปลี่ยนมาเป็นการกลั้วปากด้วยน้ำเปล่า หรือแปรงฟันหลังอาหารแทน
ไม่ว่าจะผู้ที่กำลังจัดฟันอยู่ หรือผู้ที่อยากเริ่มต้นดูแลช่องปากให้มีสุขภาพดี ถึงอย่างไรก็ควรที่จะคำนึงถึงพฤติกรรมประจำวันที่เรามักเผลอทำอยู่บ่อย ๆ ให้มาก เพราะพฤติกรรมเหล่านี้เองที่เป็นตัวบ่อนทำลายให้ฟันของเราเสื่อมสภาพลง จนกลายเป็นผู้ที่มีปัญหาช่องปากในที่สุด ใครที่ยังทำพฤติกรรมทำร้ายฟันตัวเองอยู่ก็ควรหยุดเสียตั้งแต่ตอนนี้ แล้วมาเริ่มต้นดูแลฟันให้ยิ้มได้อย่างสดใส ไม่ว่าจะออกงานไหน ๆ ก็ไร้กังวลไปเลย